วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ชาวบ้านตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก กว่า 100 คน ร่วมตัวยืนหนังสือให้นายกเล็กเมืองแม่ปะ คัดค้านเจ้าของสถานประกอบการที่จะมาลงทุนก่อสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บดบังทัศนียภาพขององค์พระธาตุเจดีย์พญาหน่อกวิ้น ซึ่งเป็นโบราณสถานวัตถุ อายุเก่าแก่ 300 ปี

ชาวบ้านตำบลแม่ปะ   อ.แม่สอด  จ.ตาก   กว่า  100 คน   ร่วมตัวยืนหนังสือให้นายกเล็กเมืองแม่ปะ  คัดค้านเจ้าของสถานประกอบการที่จะมาลงทุนก่อสร้างอาคารพาณิชย์  3 ชั้น   บดบังทัศนียภาพขององค์พระธาตุเจดีย์พญาหน่อกวิ้น   ซึ่งเป็นโบราณสถานวัตถุ    อายุเก่าแก่  300  ปี   
                ที่บริเวณหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด  จ.ตาก  นายสิงห์คำ  อุษา  ผู้ใหญ่บ้านพระธาตุ หมู่  9 ต.แม่ปะ  ได้นำชาวบ้าน 11 หมู่บ้านในพื้นที่ตำบลแม่ปะ  กว่า 100 คน    ร่วมตัวยืนหนังสือถึง นายมานพ     ยะเขียว  นายองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะ  คัดค้านเจ้าของสถานประกอบการที่จะมาลงทุนก่อสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บดบังทัศนียภาพขององค์พระธาตุเจดีย์พญาหน่อกวิ้น   ซึ่งเป็นโบราณสถานวัตถุที่มีอายุเก่าแก่ ประมาณ  300   ปี   
                นายสิงห์คำ กล่าว่า   เนื่องจากเจ้าของสถานประกอบการายหนึ่งจะมีการก่อสร้างอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ติดกับข้างวัดพะธาตุสิริมงคล หมู่   9 ติดถนนสายเอเชียแม่สอด- แม่ระมาด หมู่ 9  ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ทำให้บดบังทัศนียภาพองค์พระธาตุเจดีย์พญาหน่อกวิ้น ซึ่งมีอายุเก่าแก่ประมาณ  300   ปี   ประกอบการก่อสร้างจะส่งผลกระทบกับองค์พระธาตุที่ได้ขึ้นทะเบียนขึ้นโบราณสถาน และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่บ้านเมืองของชาวตำบลแม่ปะ  และ เมื่อวันที่  28 พฤษภาคม 2558 ได้มีการการเจรจากับเจ้าของสถานประกอบการที่จะมาลงทุนก่อสร้างอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น เพราะทำให้บดบังทัศนียภาพขององค์พระธาตุประกอบการก่อสร้างจะส่งผลกระทบกับองค์พระธาตุโดยชาวบ้านต่อรองให้คงเหลือ 2 ชั้นหรือถ้าจะสร้าง  3 ชั้นให้ขยับถอยหลังให้เหลือประมาณ   10 เมตร แนวตัดถนนแต่ทางเจ้าของสถานประกอบการที่จะมาลงทุนก่อนสร้างไม่ยินยอมและยังยืนยังที่จะก่อสร้างตามแบบเดิมที่เสนอเข้ามาคือ  3 ชั้น  เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2558 ได้มีการประชุมหมู่บ้านและได้เชิญชาวบ้าน 11 หมู่บ้านในตำบลแม่ปะเข้าร่วมประชุม  ที่ประชุมมีมติให้ทำหนังสือคัดค้านและชะลอการก่อสร้างอาคารพาณิชย์
                ด้านนายมานพ ยะเขียน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนด้วยตัวเองและรับปากว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม ถูกต้องและเหมาะสม ต่อไป หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านตำบลแม่ปะที่มีความเดือด ร้อนและมีผลกระทบกับจิตรใจ  มีความพอใจจึงแยกย้ายกันกลับ 

////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น