วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ปิดการประชุมสภาแห่งชาติพันธ์เมียนม่าร์ ( เอ็นซีซีที. ) ฟื้นสนธิสัญญาปางโหลง ตั้งสหพันธรัฐ มีทหารเป็นรัฐของตนเอง เตรียมคุยพม่า

ปิดการประชุมสภาแห่งชาติพันธ์เมียนม่าร์ ( เอ็นซีซีที. ) ฟื้นสนธิสัญญาปางโหลง ตั้งสหพันธรัฐ มีทหารเป็นรัฐของตนเอง เตรียมคุยพม่า
                นายกวยทู เลขาธิการสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( เคเอ็นยู. ) , นายฮานตา ประธานกลุ่มรัฐมอญใหม่ ( เอ็นเอ็มเอสพี. ) และนายคุนมิทุน ผู้นำชาติพันธ์ กลุ่มปะโอ ร่วมกันแถลงข่าวที่สำนักงานจังหวัดผาอ่าน ตรงข้ามบ้านโกลาเฮง ตรงข้ามตำบลแม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หลังจากที่กลุ่มชาติพันธ์ชนกลุ่มน้อยเมียนมาร์ ได้ประชุมสุดยอดผู้นำแล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 58 จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน 58 โดยที่ประชุมได้กำหนดการประชุมไว้ ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 58 แต่มีปัญหาไม่สามารถหาข้อยุติได้ โดยเฉพาะประเด็นการทำสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลเมียนมาร์ทั่วไปเทศ ที่ทางกลุ่มเมียนมาร์ไม่ยอมรับ ชนกลุ่มน้อยกลุ่ม โกก้าง , กลุ่มอาระกัน และกลุ่มปะหล่อง ขณะที่ชนกลุ่มน้อยมีมติ ตั้งกรรมการเจรจาระดับสูง ขึ้นมา โดยมีนางหน่อซีโพ หล่าเส่ง รองประธานาธิบดีเคเอ็นยู.เป็นประธาน นายกวยทู กล่าวว่า คณะกรรมการระดับสูงทั้งหมด 15 กลุ่ม จะได้รับมอบหมายให้ไปคุยกับฝ่ายรัฐบาลเมียนมา หลังจากการประชุมแล้ว ส่วนจะพบกัน และคุยกันเมื่อไหร่นั้น จะประสานวัน เวลา คุยกับผู้แทนรัฐบาลเมียนมาร์ต่อไป นอกจากเรื่องการเจรจาหยุดยิงแล้ว ฝ่ายชนกลุ่มน้อยมีมติ ให้ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตยแบบเท่าเทียมกัน ในสิทธิ และเสรีภาพของคนในชาติ และต้องการให้มีรูปแบบการปกครองในรูปแบบสหพันธรัฐ ( Federal State ) ซึ่งให้แต่ละรัฐปกครองกันเอง พลเอกมูตู่ เส่ โพ ประธานาธิบดีเคเอ็นยู. กล่าวว่า จากนี้ไปต้องรอผลการเจรจาหยุดยิง และส่วนเรื่องการเมือง ต้องการให้ประเทศเมียนม่าร์ เป็นประชาธิปไตย ในรูปแบบสหพันธรัฐ ซึ่งชนในชาติทุกกลุ่มต้องเท่าเทียมกัน ในด้านสิทธิ และเสรีภาพ แหล่งชนกลุ่มน้อยข่าวแจ้งที่เข้าร่วมการประชุมเปิดเผย ว่า ชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม ยังคงต้องการกองทัพประจำชาติ ในแต่ละรัฐ หรือ มีกองกำลังเป็นของตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยคุยกับรัฐบาลเมียนมาร์ มาแล้ว แต่พลเอกทูนอ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาร์ไม่ยอม ส่วนการปกครองโดยสหพันธรัฐนั้น เป็นรูปแบบที่มีข้อตกลงตามสนธิสัญญาปางโหลง ที่ทำไว้ในสมัยพลเอกอ่องซาน หรือวีระบุรุษเมียนมาร์ บิดาของนางอ่องซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านเมียนมาร์ สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุม 108 คน จากทั้งหมด 17 กลุ่ม ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งการประชุมประชุมสุดยอดผู้นำชนกลุ่มน้อยในเมียนม่าร์ ครั้งนี้ มีนายวีเจ ( Vijay Nambia ) ที่ปรึกษาพิเศษ เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) , นายชวินโก เชียง ( Suangun X ieng ) ตัวแทนจากเจ้าหน้าที่ผู้เชียวชาญพิเศษ ภูมิภาคเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน เกี่ยวกับเอเชีย และนายมอริ จากมูลนิธินิปอน ของประเทศญี่ปุ่น ที่ดูแลโครงสร้างพื้นที่ฐาน และด้านเครื่องอุปโภค บริโภคในเมียนม่าร์

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////// //

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น